• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🥇การเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring) 🦖และ🌏 การสำรวจดินในงานก่อสร้าง⚡

Started by Prichas, Jul 27, 2024, 05:33 PM

Previous topic - Next topic

Prichas

การเจาะสำรวจดิน 📌คือกรรมวิธีการเจาะดิน, การเก็บตัวอย่าง, การทดสอบดินในสนาม, การหยั่งลึกชั้นดิน 🌏หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางแนวดิ่งของชั้นดิน และลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ 🛒หรือศึกษาทางด้านปฐพีกลศาสตร์ การเจาะสำรวจดินต้องพิจารณาการใช้งาน เช่น งานถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะกระทำเพียงตื้น ๆ แต่งานฐานรากเสาเข็มต้องสำรวจลงไปลึกกว่าปลายเข็มที่คาดว่าจะใช้งาน 🦖สำหรับในบทนี้จะพูดถึงการเจาะสำรวจดินโดยวิธีเบื้องต้น โดยใช้ สว่านมือ, การเจาะล้าง (Wash Boring) ✅และการเก็บตัวอย่างดินด้วยกระบอกบาง📌

✅✅✅เหตุผลในการเจาะสำรวจดินก่อนก่อสร้าง👉👉👉

1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง 📢ทราบลักษณะเชิงกล เราจะได้เลือกใช้ฐานรากได้ถูกประเภท ✅เช่น หากดินแข็งพออาจจะเลือกใช้เป็นฐานแผ่แทน🌏

2. การรู้ความลึกของชั้นดินแข็ง ⚡เพื่อนำไปคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม👉 และเลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม🌏

3. เพื่อลดความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม ✨เพราะหากเจอชั้นดินแข็ง แต่ไม่หนาที่ชั้นความลึกไม่มาก 🛒อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าถึงชั้นดินแข็ง ✅ทั้งที่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้อีก 🌏หากพื้นที่สำรวจมีความผันผวนของดินสูง วิศวกรควรสั่งเจาะสำรวจดินหลายหลุม เพื่อเปรียบเทียบ 📌เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบ สำหรับก่อสร้างอาคารนั้น👉



🌏🌏🌏วิธีเจาะสำรวจชั้นดิน (Soil Boring)✨✨✨

การเจาะสำรวจชั้นดิน📌คือการการขุดหลุมในดินเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน👉และเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติในห้องปฏิบัติการ🌏โดยทั่วไปวิธีการสำรวจดินที่นิยมในประเทศไทย 🦖ได้แก่

1. การเจาะโดยใช้สว่านมือ (Hand Auger) 📢เป็นการเจาะด้วยแรงคน โดยใช้สว่านมือและก้านเจาะดังรูปด้านล่าง 🎯โดยที่ก้านเจาะซึ่งยาวประมาณ 1 เมตร สามารถต่อให้ยาวหลาย ๆ ท่อนได้ เมื่อกดพร้อม ๆ กับหมุนก้านจนดินเข้ามาเต็มสว่านแล้วจึงดึงขึ้นเพื่อนำดินออก 🥇ดินส่วนนี้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติบางประเภททางวิศวกรรม 👉การเจาะด้วยสว่านมือสามารถทำได้ลึกถึง 6-10 เมตรในดินเหนียวแข็งปานกลาง 🌏ข้อเสียของการเจาะประเภทนี้คือไม่สามารถเก็บตัวอย่างดินเพื่อนำมาหาคุณสมบัติด้านความแข็งแรงหรือการทรุดตัวของดินได้เนื่องจากโครงสร้างดินถูกทำลายโดยสว่าน🥇

2. การเจาะโดยใช้การฉีดล้าง (Wash Boring) 📢คือการใช้การฉีดน้ำด้วยแรงดันสูงเพื่อให้เกิดหลุม และเกิดการรบกวนดินด้านล่างน้อยที่สุด 🥇วิธีการเจาะเริ่มโดยการเจาะชั้นดินโดยการสูบน้ำผ่านก้านเจาะลงไปที่หัวฉีดที่ก้นหลุมพร้อม ๆ กับกระแทกหรือหมุนของหัวเจาะ ✅ทำให้ดินก้นหลุมหลุดไหลตามน้ำขึ้นมาบนผิวดินลงในอ่างตกตะกอนแล้วสูบน้ำที่ใสนำไปใช้ได้อีก 🛒ดังรูปด้านล่าง วิธีนี้ต้องอาศัยโครงสามขา เครื่องกว้าน (Motor และ Catch head) 🦖และเครื่องสูบน้ำ ในกรณีที่เจาะในชั้นของดินอ่อน จะต้องใช้ปลอกกันดินพัง (Casing)ด้วย โดยต่อเป็นท่อน ๆ 🦖และเมื่อเจาะถึงชั้นทรายจะไหลเข้ามาในหลุม จึงต้องผสมสารเบนโทไนต์ (Bentonite) กับน้ำ 🌏เนื่องจากเบนโทไนต์คือแร่ชนิด มอนต์มอริลโลไนต์ มีความสามารถในการดูดน้ำดีและพองตัวได้มาก 📌ทำให้ความหนาแน่นของน้ำภายในหลุมมากกว่าน้ำในชั้นทราย✅ น้ำจึงไม่ไหลเข้าในหลุม การเจาะประเภทนี้สามารถหยุดเพื่อเก็บตัวอย่างดินได้เป็นระยะ ๆ ตามกำหนด 🦖การเจาะสำรวจในกรุงเทพฯ สำหรับการก่อสร้างอาคารจะอยู่ที่ความลึก 30-80 เมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของอาคาร🛒