1.พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ

[Panitsupa]

พิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
         ในอดีตกาลเมื่อมนุษย์ยังไม่เคยรู้ การพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ การที่มองวันที่เป็นนั้นมาจากรู้จักการดูดวงดาวเพื่อดูวันเดือนปี
ให้ง่ายมากยิ่งกว่าเดิม และเริ่มมีการสร้างเครื่องจับเวลา สร้างการจดบันทึกหรือออกแบบการดูดาวต่างๆเพื่อทำการแบ่งฤดู
แบ่งวันเดือนปีต่างๆการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะ ทำให้สามารถกำหนดออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างเห็นได้ชัด ดำเนินชีวิตทุกวันได้
ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้มีการจำเรื่องราวรวมถึงใช้ในลัษณะของการเตือนความจำต่างๆได้ดิบได้ดีอีกด้วย
เราก็เลยพินิจได้ว่าสำหรับเพื่อการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะหรือรูปแบบของปฏิทินแขวนไทย ชอบมีการบอกควบคุมถึงข้างขึ้น
ข้างแรมเพื่อสะท้อนให้มองเห็นถึงการดูพระจันทร์ที่พวกเราจะต้องใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะไม่ได้บอกแค่การรับทราบวันเดือนปีได้เพียงแค่นั้น
แม้กระนั้นการจดจำวันตลอดปีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะและนับวันให้ตรงกันทั่วทั้งโลก ก็เลยเป็นกรรมวิธีที่มนุษย์ใช้ร่วม
กัน อย่างไรก็แล้วแต่ลักษณะของการนับวันที่ร่วมกันอย่างเป็นสากลสามารถช่วยกันกำหนดเพื่อกระทำนัดแนะหรือกระทำการ
บอกวันในเวลาที่สำคัญได้ง่ายมากขึ้น การกำหนดปฏิทินอย่างเป็นสากลก็เลยมีความเกี่ยวข้องต่อยุคสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ
ก่อนที่จะเป็นการพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ การกำเนิดปฏิทินครั้งแรกของโลกมาจากชาวบาบิโลเนียน ซึ่งมีการย้อนกลับมา
กลับไปในตอนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมาจากภาษาโรมันของชาวกรีกโบราณกาล ในยุคของชาวภาษากรีกโบราณนั้นยังไม่
มีการใช้การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะ แม้กระนั้นคนสมัยเก่ามีการทำปฏิทินบอกวันเวลาขึ้นมา เมื่อครบกำหนดเวลาจะมีบุคคลที่กระทำการร้องบอกวัน
เวลาขึ้น การบอกเวลาในอดีตสมัยมีความสำคัญมากมายเพื่อเป็นการบอกการขึ้นวันเดือนใหม่เพื่อทราบถึงลูกหนี้ที่ยังมีการ
ค้างชำระของเจ้าหนี้อยู่ ภาษาอังกฤษคือ "I Cry" ภาษาไทยมีความหมายว่า "การร้องบอก" ภาษาโรมันของชาวกรีกสมัยโบราณ
เรียกว่า Kalend ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า Calendar ในภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ตามการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะมีประวัติความเก่าแก่สืบย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของปฏิทินโลก ระยะเวลาของ
การพิมพ์ปฏิทินตั้งโต๊ะนั้นนานมีความเก่าแก่มานานมากกว่าพันปี โดยระบบการนับวันที่ตามชาวบาบิโลเนียนที่มีการ
กำหนดวันเดือนปีขึ้นมาพินิจจากระยะต่างๆของดวงจันทร์เกี่ยวกับการสังเกตข้างขึ้นข้างแรม ปัจจุบันพวกเราสามารถ
ตีความหมายนั้นได้ว่าเป็นรูปแบบของจำพวกปฏิทินจันทรคติ โดยเมื่อครบการกำหนดข้างขึ้นเราแรมครบ 12 รอบจะเป็น
การครบฤดูให้เวียนกลับมา
ปฏิทินของประเทศไทยได้ถูกพิมพ์ขึ้นคราวแรก 14 ม.ค. พุทธศักราช 2385 ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดยเหตุนั้น แต่ละวันที่ 14
ม.ค.ทุกปี มีการกำหนดให้เป็นวันที่มีความหมายเหตุเพราะใช้ปฏิทินเผยแพร่ขึ้นมาหนแรก ประเทศไทยในยุคสมัยก่อนมี
การใช้ปฏิทินจันทรคติตั้งแต่ยุคสุโขทัยมีการนับเป็นปีตามมหาศักราชและจ.ศ. ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เลยได้มีการกรุณาจากรูปแบบปฏิทินเดิมให้กลายเป็นปฏิทินสุริยคติ มีต้นแบบ
การใช้มีความนำสมัยลักษณะสากลตามปฏิทินเกเกลื่อนกลาดอเรียน ท้ายที่สุดก็เลยมีการจัดทำการพิมพ์ปฏิทินจัดโต๊ะขึ้นเพื่อใช้งานนั้นเอง